
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรไทยต่างเผชิญแรงกดดันด้านงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งงานประจำที่ต้องเดินทุกวัน และโปรเจกต์ใหม่ที่ต้องเร่งให้ทันเวลา ความท้าทายสำคัญคือ “จำนวนคนไม่พอ” และ “ทีมภายในต้องรับภาระเกินตัว” จนเกิดปัญหาทำงานช้า ล่าช้า หรือเหนื่อยล้าเกินจำเป็น นี่คือจุดที่หลายองค์กรเริ่มกลับมามองบริการ BPO (Business Process Outsourcing) อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในฐานะ Outsourcing แบบเดิมที่เน้นเพียงงาน Routine แต่ในวันนี้ BPO กลายเป็น เครื่องมือเร่งโปรเจกต์และเสริมกำลังทีมแบบยืดหยุ่น ที่องค์กรไทยทุกขนาดสามารถนำไปใช้ได้อย่างคุ้มค่า
โดยความหมายแล้ว BPO คือการส่งมอบกระบวนการทำงานบางส่วนให้ทีมภายนอกที่เชี่ยวชาญช่วยดูแลแทน เช่น งาน Back-office, งานข้อมูล, งานประสานงาน, งาน Support, งานฝ่ายบริการลูกค้า, IT Support หรือแม้กระทั่งทีมเสริมสำหรับโปรเจกต์เฉพาะกิจที่ต้องใช้ระยะเวลาสั้น ๆ แต่ต้องทำงานให้ถูกต้องและรวดเร็ว
ข้อดีของการใช้บริการ BPO สำหรับองค์กรไทย
การใช้บริการ BPO ไม่ได้เป็นเพียงการลดต้นทุน แต่เป็นกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วของทั้งองค์กร โดยเฉพาะทีมที่ต้องทำงานภายใต้ความกดดันของเวลาและภาระงานที่หนักขึ้นทุกปี
1. เพิ่มความเร็วของโปรเจกต์ได้ทันที
องค์กรไม่ต้องรอเวลาสรรหา เทรน หรือเตรียมทีมใหม่ ผู้ให้บริการ BPO สามารถเสริมกำลังคนที่พร้อมทำงานได้ทันที ช่วยให้โปรเจกต์เดินหน้าเร็วกว่าเดิมหลายเท่า
2.ช่วยลดภาระงาน Routine ให้ทีมภายใน
งานที่ซ้ำ ๆ ต้องใช้เวลานาน หรืองานที่ไม่จำเป็นต้องให้ทีมหลักทำ สามารถส่งต่อให้ทีม BPO ช่วยดูแล ทำให้พนักงานภายในมีเวลาไปโฟกัสงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
3. ช่วยควบคุมต้นทุนบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรสามารถเลือกจ้างทีม BPO ตามจำนวนงานจริง ไม่ต้องแบกรับสวัสดิการระยะยาว ค่าอบรม หรือภาระการจ้างงานแบบถาวร
4. รองรับปริมาณงานช่วงพีคได้ดีมาก
ช่วงยอดขายพุ่ง ช่วง Audit สิ้นปี หรือช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่ องค์กรสามารถขยายทีมชั่วคราวได้ทันที ทำให้งานไม่ล้นและไม่ต้องเพิ่มพนักงานประจำ
5. เพิ่มคุณภาพและความแม่นยำของงาน
ผู้ให้บริการ BPO มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ทำให้ช่วยเพิ่มคุณภาพ ลดความผิดพลาดของข้อมูล และสร้างมาตรฐานการทำงานที่สม่ำเสมอ
และนี่คือตัวอย่างบริษัทและประเภทธุรกิจในไทยที่ใช้บริการ BPO อย่างได้ผลจริงองค์กรใหญ่ในไทยหลายกลุ่มอุตสาหกรรมใช้บริการ BPO มานานแล้ว เพราะช่วยเร่งงาน เพิ่มคุณภาพ และทำงานได้เร็วกว่าใช้ทีมภายในเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ได้แก่
เมื่อการแข่งขันเร็วขึ้น งานเร่งด่วนเพิ่มขึ้น และตลาดแรงงานยังไม่สามารถผลิต Talent ได้ทันความต้องการ องค์กรไทยจำเป็นต้องมีโครงสร้างการทำงานที่ “ยืดหยุ่นและขยายได้ทันที” มากขึ้นกว่าเดิม
นี่คือเหตุผลที่ปีหน้าจะเป็นปีที่องค์กรควรเริ่มใช้ BPO อย่างจริงจัง เพราะช่วย เร่งโปรเจกต์ให้เดดไลน์ไม่ล่ม, เสริมทีมได้ทันทีเมื่อคนไม่พอ, ลดภาระงาน Routine, และ ควบคุมต้นทุนบุคลากรได้ดีกว่า การจ้างงานแบบเดิม องค์กรที่นำ BPO มาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง จะทำงานได้เร็วกว่า มีความพร้อมกว่า และได้เปรียบในการแข่งขันอย่างชัดเจนนี่คือเหตุผลที่ธุรกิจไทยไม่ควรมองข้ามการใช้บริการ BPO ในปีหน้า